ปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุ

ปัญหาสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ ในปัจจุบันความสูงอายุของผู้สูงอายุแต่ละคนจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่เท่ากัน ผู้สูงอายุบางคนก็ดูแก่กว่าอายุจริงบางคนก็ดูอ่อนกว่าอายุจริงทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปรับตัวของผู้สูงอายุเป็นสำคัญ ในทางการแพทย์นั้นถือว่าวัยผู้สูงอายุ(60ปีขึ้นไป) จะมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในทางที่เสื่อมลงซึ่งทำให้เกิดปัญหากับผู้สูงอายุได้มากพออยู่แล้วแต่สิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้อีกอย่างก็คือการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจหรือปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุที่ทำให้เกิดความเครียดในผู้สูงอายุได้ไม่แพ้ปัญหาเรื่องการเสื่อมถอยของร่างกายเลย

สภาพจิตใจของผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุทำให้เกิดความกังวลแก่ผู้สูงอายุอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นสภาพร่างกายใส่ใจดูแลผู้สูงอายุ สภาพแวดล้อมและความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ชุมชนและสังคม สิ่งที่เกิดควบคู่กันไปคือปัญหาทางด้านสุขภาพจิตของผู้สูงอายุที่เกิดจากความรู้สึกสูญเสีย อย่างแรกเลยคือการสูญเสียความสามารถของตนเอง ร่างกายที่เคยแข็งแรงสามารถทำงานและกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วยตนเอง เคยเป็นผู้นำของครอบครัวเป็นที่พึ่งของทั้งคนในครอบครัวและเพื่อนร่วมงานเคยได้รับการยกย่องและนับหน้าถือตาจากคนรอบข้างแต่ต้องกลับมาเป็นผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ต้องรับการช่วยเหลือจากคนในครอบครัวและคนรอบข้าง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพจิตกับผู้สูงอายุและทำให้เกิดความเครียดในผู้สูงอายุตามมา

ปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุเกิดจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จากครอบครัวใหญ่ที่อยู่รวมกันตั้งแต่ ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ลูก เปลี่ยนมาเป็นครอบครัวเล็กอยู่กันเพียง พ่อ แม่ ลูก ทำให้การดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวที่เคยกระทำต่อเนื่องกันมาถูกละเลยและขาดหายไป อีกทั้งผู้สูงอายุที่ต้องออกจากงานจะด้วยเหตุผลใดก็ตามเช่น เกษียณอายุหรือลูกหลานไม่ต้องการให้เหนื่อยอยากให้พักผ่อน เมื่อไม่ได้ทำงานทำให้ขาดภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบซึ่งส่งผลกระทบต่อความรู้สึกในด้านความมีคุณค่าของตัวผู้สูงอายุเองทำให้เกิดความเบื่อหน่าย ท้อแท้ น้อยใจและเริ่มแยกตัวออกจากสังคม

สภาพจิตใจของผู้สูงอายุที่ต้องพบกับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและคนรอบข้างทำให้ผู้สูงอายุพยายามหาทางออกให้กับตนเองเพื่อทำให้ชีวิตมีคุณค่า ผู้สูงอายุอาจมีปัญหาในการสนใจและหมกมุ่นกับเรื่องของตนเองมากขึ้น อารมณ์เกรี้ยวกราดได้ง่ายเมื่อต้องพบกับความกดดันหรือคับข้องใจทำให้เกิดความวิตกกังวลและความเครียดได้ง่าย ผู้สูงอายุบางคนเตรียมพร้อมกับเรื่องความตายที่กำลังใกล้เข้ามาทุกขณะแต่ผู้สูงอายุบางคนก็ยอมรับไม่ได้กับเรื่องนี้ ผู้สูงอายุที่ยอมรับความจริงได้และเข้าใจธรรมชาติของชีวิตจะหาทางทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อตนเองและสังคมทำให้มีความภูมิใจในตนเองเกิดขึ้นและมีสุขภาพจิตที่ดีได้

ผู้สูงอายุควรทำใจและยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น การพัฒนาตนเองของผู้สูงอายุควรทำทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ โดยในด้านร่างกายนั้นควรสนใจในการออกกำลังกายและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ตามสมควร ส่วนในด้านสุขภาพจิตนั้นควรเข้าใจและยอมรับความเป็นจริงเรื่องการเปลี่ยนแปลงเช่น ลูก หลานที่โตแล้วจะมีการแยกครอบครัว ลูก หลานที่โตแล้วจะมีความคิดเห็นเป็นของตนเองที่อาจไม่เหมือนกับความเห็นของผู้สูงอายุ การยอมรับความจริงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพจิตที่ดีและอยู่อย่างมีความสุขตามสมควร

ทัศนคติทางสังคมส่วนมากมักจะมองผู้สูงอายุว่ามีความคิดโบราณ เป็นคนแก่ที่ขี้หลงขี้ลืม เลอะเลือน สติไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเป็นเพราะว่าผู้สูงอายุส่วนมากจะเป็นเช่นนั้นจริง นั่นคือยอมรับสภาพตัวเองที่มีความถดถอยทางร่างกายแล้วทำให้สภาพจิตใจก็พลอยแย่ลงไปด้วย ทั้งนี้ก็มีผู้สูงอายุส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนน้อยที่เป็นตรงกันข้ามกับผู้สูงอายุส่วนมาก ทั้งนี้เป็นเพราะว่าผู้สูงอายุส่วนน้อยนี้มีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับทัศนคติที่ผิดๆ กับผู้สูงอายุโดยการหันมาดูแลเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตนเองให้ดี แม้ว่าสภาพร่างกายจะเสื่อมถอยแต่ก็พยายามออกกำลังกายเพื่อประคองสภาพร่างกายให้สามารถดูแลตัวเองได้ไม่เป็นภาระกับผู้อื่นและคนในครอบครัวมากเกินไป เมื่อทำได้ในระดับหนึ่งก็จะมีกำลังใจในการหาทางทำสิ่งที่เกิดประโยชน์กับคนในครอบครัวและขยายออกไปสู่ชุมชนที่อาศัยอยู่ การที่ผู้สูงอายุสามารถทำตนให้เกิดประโยชน์กับครอบครัวและชุมชนได้โดยอาศัยความรู้ ทักษะ ความสามารถที่ติดตัวมานั่นจะทำให้สภาพจิตใจของผู้สูงอายุไม่เสื่อมถอยไปตามสภาพร่างกาย การใช้ความรู้ความสามารถช่วยเหลือให้คำปรึกษากับคนในครอบครัว เพื่อนบ้านและชุมชนไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตามย่อมทำให้สุขภาพจิตของผู้สูงอายุดีขึ้นได้เสมอ.